ใครที่หลงรักในการชื่นชมทะเลหมอกยามเช้า แต่ไม่มีเวลาที่จะเดินทางไกลไปเที่ยวถึงภาคเหนือ วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ จะพาทุกคนไปตะลุยเส้นทางสุดหฤโหด กับการเดินทางขึ้นพิชิต ยอดเขากระโจม ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นเคล้าสายหมอกแสนสวยงาม ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯเพียงไม่ถึงสองร้อยกิโลเมตร
เขากระโจม ตั้งอยู่ในอำเภอสวนผึ้ง มีความสูง 1,045 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว เพราะนอกจากจะมีทะเลหมอกสวยงามให้ได้เห็นแล้ว อากาศในช่วงฤดูหนาวก็เย็นสบายไม่แพ้ภาคเหนือ
การเดินทางขึ้นมายังจุดชมวิวเขากระโจมจำเป็นต้องใช้รถโฟล์วิวที่ผ่านการดัดแปลงสำหรับการขึ้นภูเขามาโดยเฉพาะเป็นพาหนะ เพราะตลอดระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรจากตีนเขาถึงยอดเขา มีความโหดของเส้นทางรออยู่มากมายจนหลายคนอาจนั่งไม่ติดตลอดการเดินทางก็ว่าได้
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นเขากระโจม จะเลือกใช้บริการรถโฟล์วิวรับจ้างของกลุ่ม “รักษ์เขากระโจม” ที่ชำนาญพื้นที่ เป็นผู้พาฝ่าเส้นทางสุดโหดขึ้นไป โดยรถแต่ละคันสามารถรองรับได้ประมาณ 8 -10 คน ซึ่งส่วนใหญ่คนที่จะเดินทางขึ้นไปดูทะเลหมอกยามเช้าที่ยอดเขากระโจมจะนัดกันตั้งแต่ประมาณตี 4 ครึ่ง เพื่อให้รถมารับยังรีสอร์ที่ค้างแรม ก่อนจะตะลุยเส้นทางหฤโหดไปพร้อมกันโดยฝากชีวิตไว้กับคนขับรถผู้ชำนาญเส้นทาง
การเดินทางขึ้นเขากระโจมของผมในครั้งนี้ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกแต่ก็ต้องขอขอบคุณ ททท.สำนักงานเพชรบุรี ที่จัดทริปดีๆอย่างนี้ขึ้น พร้อมดูแลชาวคณะทุกคนตลอดการเดินทาง สำหรับคนที่ไม่เคยมาพิชิตยอดเขาแห่งนี้ ถ้าเห็นเส้นทางช่วง 2 - 3 กิโลเมตรแรกอาจรู้สึกว่าไม่มีความน่าตื่นเต้น แต่อย่าเพิ่งเบื่อไปเสียก่อน เพราะหลังจากเส้นทางที่ถนนขาดไปแล้ว ความระทึกใจก็จะค่อยๆเพิ่มทวีคูณขึ้น ผมเชื่อว่าบางคนอาจถึงขั้นคิดว่าอยากกลับที่พักตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทาง
ถ้าจะให้บรรยายภาพเส้นทางขึ้นเขากระโจมช่วงที่เหลือกว่า 7 กิโลเมตร อยากให้ทุกคนนึกถึง ทางดินที่เป็นหลุมลึกลากยาวสั้นสลับกันไป เหมือนใครเอาอะไรมาขีดเป็นเส้นไว้ตลอดเส้นทางหลายเส้น ผมพยายามชะเง้อมองอยู่หลายครั้งจากหลังรถ ขอบอกเลยว่าถ้าไม่ชินเส้นทางไม่สามารถหาทางวิ่งไปจนถึงยอดเขาได้แน่นอน โดยต้องผ่านเนินที่ชาวบ้านเขาเรียก เนิน700 ไล่ไปจนถึงยอดเรียกว่าเนิน1,000 ตามลำดับความสูงจากระดับน้ำทะเล
ถึงการเดินทางจะสมบุกสมบันเพียงใด แต่การได้มาสัมผัสความงามของผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์บนภูเขาลูกนี้ด้วยตาตนเอง คลอเคล้าบรรยากาศที่ลมหนาวพัดมาเยือน แม้จะต้องแรกกับการตื่นเช้าและฝ่าฟันเส้นทางเลวร้ายแค่ไหนก็ถือว่าคุ้มค่า โดยถ้าใครจะเดินทางมาในช่วงฤดูหนาวแนะนำว่าอย่าลืมพกเสื้อกันหนาวติดตัวมาด้วย เพราะลมจะพัดแรงตลอดเส้นทาง รวมถึงหมอกจะลงหนามากทำให้อาจไม่สบายได้
หลังจากฝ่าฟันอุปสรรคมากมายมาจนถึงยอดเขา ก็จะเห็นจุดตั้งฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดน และจุดชมวิวที่สามารถชมความงามของทะเลหมอกได้ทั้งฝั่งไทย และฝั่งเพื่อนบ้านอย่างพม่า ขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคนว่าจะขึ้นมาเห็นทิวทัศน์ในสภาพอากาศแบบไหน ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครที่ขึ้นมาเพียงครั้งเดียวแล้วเห็นความงามของยอดเขากระโจมได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าเดินทางมาบ่อยๆสักวันธรรมชาติจะต้องเข้าข้างความพายามของเรา
การท่องเที่ยวเพื่อชมความงามของธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ทั่วเมืองไทย เป็นเสน่ห์การท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติหลงรักประเทศของเรา เพราะฉะนั้น การท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการอนุรักษ์จึงเป็นแนวทางที่ทุกคนควรปฏิบัติ เพื่อให้ความงามตามธรรมชาติเหล่านั้นคงอยู่อย่างยั่งยืนสืบต่อไป
ใครที่สนใจอยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวผจญภัยสู่ยอดเขากระโจม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทร 0 3247 1005-6 หรือที่ TAT Call Center โทร 1672
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
Deflying2@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น