ทำเนียบรัฐบาลถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีประวัติศาสตร์และเป็นมรดกของชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 27 ไร่ 3 งาน 44 ตาราวางของถนนพิษณุโลก ที่ก่อสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 6 โดยได้รับการออกแบบจากช่างชาวอิตาเลียน และมีการนำศิลปะแบบเวนีเชี่ยนโกธิค (Venetian Gothic) มาเป็นต้นแบบ ผสมผสานกับงานเขียนและงานปั้นทำให้สง่างามตลอดมา ทั้งนี้รัชกาลที่ 6 ได้ทรงพระราชทานแก่ พลเรือเอก เจ้าพระยารามราฆพ หรือหม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ ผู้เคยดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการมหาดเล็ก และผู้บัญชาการกรมมหรสพ และตั้งชื่อว่า “บ้านนรสิงห์“ ต่อมาในสมัยจอมพล แปลก พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นควรให้รัฐบาลไทยซื้อ “บ้านนรสิงห์” ไว้เพื่อใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลและสถานที่รับรองแขกบ้านแขกเมือง ในราคา 1,000,000 บาท ซึ่งหลังจากนั้นได้ชื่อเป็น ทำเนียบสามัคคีชัย และทำเนียบรัฐบาล ตามลำดับ โดยมอบให้สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแล
สำหรับพื้นที่โดยรอบขอทำเนียบรัฐบาลนั้นมีลักษณะเป็นพื้นที่ 4 สี่เหลี่ยมที่ด้านหน้าและด้านซ้ายถูกขนานด้วยคลองผดุงกรุงเกษมและคลองเปรมประชากร ส่วนด้านหลังและด้านขวาเป็นถนนนราชดำเนินและถ.พิษณุโลก ขณะที่รั้วกั้นอาณาเขตในอดีตนั้นเป็นรั้วคอนกรีตทึบรอบด้านแต่ปัจจุบันด้านหน้าและด้านข้างฝั่งถนนพิษณุโลกได้ปรับเปลี่ยนเป็นรั้วเหล็กดัดลวดลาย โปร่งตามากขึ้นเพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้ชื่นชมความสง่างามของทำเนียบรัฐบาล ส่วนพื้นที่ด้านในนั้นได้มีการจัดสนามหญ้าเขียวขจีและตกแต่งปีนใหญ่จำนวน 9 กระบอก
ในปัจจุบันนี้ทำเนียบรัฐบาลกกลายเป็นสถานที่ราชการที่ใช้เป็นที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานราชการบางหน่วยงาน รวมทั้งใช้เป็นสถานที่จัดรัฐพิธี เช่น งานสโมสรสันนิบาตเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ จัดการประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อชี้แจงนโยบายรัฐบาล รวมทั้งเป็นศูนย์กลางรับเรื่องร้องทุกข์และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้วย
นอกจากทำเนียบรัฐบาลจะมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองอีกด้วย เนื่องจากทำเนียบรัฐบาลเป็นศูนย์กลางการอำนาจในการบริหารประเทศ เมื่อเป็นอย่างนี้เหตุการณ์ที่สำคัญทางการเมืองเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองไทยจึงเกิดขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาลแห่งนี้ และเหตุการณ์ทางการเมืองครั้งหนึ่งที่คอการเมืองในบ้านเราแทบทุกคนจะต้องจดจำได้อย่างดีคือ ในช่วงเดือนปลายสิงหาคม พ.ศ.2551 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ( พธม.) เข้าล้อมและบุกยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นฐานที่มั่นในการชุมนุมทางการเมืองกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งในที่สุดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็เกิดขึ้นจริง โดยที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแทนนายสมัคร สุนทรเวช แต่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทยนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวในประวัติทำเนียบนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีโอกาสเข้ามานั่งเก้าอี้ทำงานภายในทำเนียบรัฐบาลแม้แต่วันเดียว.
สำหรับพื้นที่โดยรอบขอทำเนียบรัฐบาลนั้นมีลักษณะเป็นพื้นที่ 4 สี่เหลี่ยมที่ด้านหน้าและด้านซ้ายถูกขนานด้วยคลองผดุงกรุงเกษมและคลองเปรมประชากร ส่วนด้านหลังและด้านขวาเป็นถนนนราชดำเนินและถ.พิษณุโลก ขณะที่รั้วกั้นอาณาเขตในอดีตนั้นเป็นรั้วคอนกรีตทึบรอบด้านแต่ปัจจุบันด้านหน้าและด้านข้างฝั่งถนนพิษณุโลกได้ปรับเปลี่ยนเป็นรั้วเหล็กดัดลวดลาย โปร่งตามากขึ้นเพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้ชื่นชมความสง่างามของทำเนียบรัฐบาล ส่วนพื้นที่ด้านในนั้นได้มีการจัดสนามหญ้าเขียวขจีและตกแต่งปีนใหญ่จำนวน 9 กระบอก
ในปัจจุบันนี้ทำเนียบรัฐบาลกกลายเป็นสถานที่ราชการที่ใช้เป็นที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานราชการบางหน่วยงาน รวมทั้งใช้เป็นสถานที่จัดรัฐพิธี เช่น งานสโมสรสันนิบาตเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ จัดการประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อชี้แจงนโยบายรัฐบาล รวมทั้งเป็นศูนย์กลางรับเรื่องร้องทุกข์และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้วย
นอกจากทำเนียบรัฐบาลจะมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองอีกด้วย เนื่องจากทำเนียบรัฐบาลเป็นศูนย์กลางการอำนาจในการบริหารประเทศ เมื่อเป็นอย่างนี้เหตุการณ์ที่สำคัญทางการเมืองเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองไทยจึงเกิดขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาลแห่งนี้ และเหตุการณ์ทางการเมืองครั้งหนึ่งที่คอการเมืองในบ้านเราแทบทุกคนจะต้องจดจำได้อย่างดีคือ ในช่วงเดือนปลายสิงหาคม พ.ศ.2551 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ( พธม.) เข้าล้อมและบุกยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นฐานที่มั่นในการชุมนุมทางการเมืองกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งในที่สุดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็เกิดขึ้นจริง โดยที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแทนนายสมัคร สุนทรเวช แต่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทยนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวในประวัติทำเนียบนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีโอกาสเข้ามานั่งเก้าอี้ทำงานภายในทำเนียบรัฐบาลแม้แต่วันเดียว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น