ย้อนกลับไปพูดถึงสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า ไม่ปรากฏว่าทรงยกสตรีใดขึ้นเป็นพระอัครมเหสี ที่จริงจะมีพระภรรยาเจ้าไม่ว่าชั้นใดหรือไม่ก็ยังไม่มีหลักฐาน อาจจะทรงเอาแต่รบทัพจับศึกก็ได้ จึงไม่ปรากฏว่ามีพระราชโอรสธิดาหรือผู้สืบเชื้อสายแต่มีเรื่องเล่าถึงสตรีที่ทรงรักตั้งแต่วัยรุ่นคือเจ้าขรัวมณีจันทร์ซึ่งได้ตามเสด็จหนีจากพม่าเข้ามาอยู่อยุธยา พงศาวดารไทยกล่าวว่าเจ้าขรัวมณีจันทร์มีชีวิตต่อมาจนถึงสมัยพระเจ้าทรงธรรม
เครื่องหมายแห่งวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรที่ยังปรากฏสืบมา บัดนี้เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เวลาทำพิธีบรมราชาภิเษกพระมหากษัตริย์ไทยจะเชิญออกมาประดิษฐานเป็นสิริมงคลสูงส่งคือพระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง (ใช้ยิงสุรกรรมาแม่ทัพพม่า) พระแสงดาบคาบค่าย (ใช้คาบปีนรั้วทัพพม่าขึ้นไปต่อสู้ถึงหอคอย) พระมาลาเบี่ยง (ถูกพม่าฟันหมวกจนบิ่น) และพระแสงแสนพลพ่าย (ใช้ฟันพระมหาอุปราชา) ครูควรพานักเรียนไปดู ชาติไทยเป็นเอกราชมาได้ด้วยของทั้ง 4 นี้
พระราชานุสาวรีย์มหาราชพระองค์นี้มีอยู่หลายแห่ง ที่อนุสรณ์สถานดอนเจดีย์ สุพรรณบุรีแห่งหนึ่ง ทางจังหวัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระนเรศวรไว้ใต้ถุนน่าดูนัก ที่ทุ่งมะขามหย่องนอกเกาะอยุธยาแห่งหนึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง ผมไปยืนดูทีไรน้ำตาซึม พระเดชพระคุณท่วมหัวจริง ๆ เจ้าประคุณเอ๋ย และที่หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะชานกรุงใกล้แค่นี้เองอีกแห่งหนึ่ง ครูโรงเรียนไหนยังไม่รู้จักพานักเรียนไปชมให้ได้สักแห่ง ผมว่าน่าเสียดาย!
ได้เล่าแล้วว่าสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมได้ครองราชย์ต่อจากสมเด็จเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ พระราชโอรสสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงเป็นกษัตริย์อยุธยาพระองค์ที่ 22 และเป็นลำดับที่ 5 ในราชวงศ์สุโขทัย ก่อนจะได้ราชสมบัติเป็นเจ้าชั้นลูกเธอของสมเด็จพระเอกาทศรถ แต่บางคนเชื่อว่าดีไม่ดีอาจเป็นลูกเธอของสมเด็จพระนเรศวรด้วยซ้ำ ที่แน่คือพระชนนีมิได้เป็นพระอัครมเหสี มิฉะนั้นคงได้ครองราชย์ก่อนสมเด็จเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ไปแล้วเพราะพระชนมายุมากกว่าและฉลาดหลักแหลมกว่าเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ เมื่อแรกประสูติเป็นพระอินทราชาภายหลังพระราชชนกคงเกรงจะก่อความยุ่งยากในการสืบราชสมบัติจึงให้ออกผนวชและไปประทับที่วัดระฆัง (บัดนี้คือวัดวรโพธิ์ยังมีอยู่) จนได้เป็นพระราชาคณะชื่อพระพิมลธรรม
สมณศักดิ์พระพิมลธรรมสมัยอยุธยาตอนนั้นอาจไม่ใหญ่โตนัก แต่มาถึงกรุงรัตนโกสินทร์จนถึงบัดนี้เป็นสมณศักดิ์ของพระราชาคณะชั้นรองสมเด็จ 1 ใน 4 ที่สำคัญในแผ่นดินคือพระพิมลธรรม พระธรรมวโรดม พระพรหมมุนี และพระอุบาลีคุณูปมาจารย์
พระพิมลธรรมจะสึกก่อนนำพระและทหารเข้ายึดอำนาจจากสมเด็จพระศรีสรรเพชญ (ที่ 4) หรือจะยึดอำนาจจากสมเด็จเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์แล้วจึงลาผนวชภายหลังยังสับสนอยู่ แต่พิเคราะห์ดูเหตุผลแล้วน่าจะสึกก่อน จะครองผ้าเหลืองวิ่งจีวรปลิวเข้ายึดอำนาจแล้วสั่งสำเร็จโทษสมเด็จเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ได้กระไร ครองราชย์แล้วทรงพระนามว่าสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม คำแปลใกล้เคียงกับธรรมราชาตามคตินิยมสุโขทัยฝ่ายพระราชบรรพบุรุษ
สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากตามประสาคนเคยบวชเรียน ในรัชกาลนี้มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี ถ้าว่าตามตำนานจะพิลึกพิลั่นมาก แต่ถ้าดูให้เป็นวิทยาศาสตร์และรัฐศาสตร์เข้าใจว่าอาจทำขึ้นเพื่อเหตุผลทางการเมืองให้คนคร้ามเกรงก็ได้ว่าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้มีบุญ พอขึ้นเป็นใหญ่ก็ได้พบของศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง โปรดฯ ให้สร้างมณฑปครอบและมีพระราชพิธีจัดขบวนเสด็จพระราชดำเนินเป็นการใหญ่ไปทรงนมัสการพระพุทธบาทมาทุกรัชกาลตลอดสมัยอยุธยา จะว่าเป็นปูชนียสถานสำคัญที่สุดในสมัยอยุธยาก็ว่าได้
สมัยนั้นการคบค้ากับต่างประเทศเริ่มมีมากโดยเฉพาะกับเปอร์เซีย ฮอลันดาซึ่งเราเรียกว่าวิลันดา อังกฤษ และญี่ปุ่น จนถึงกับเข้ามาตั้งห้างและเข้าเป็นทหาร นายห้างฮอลันดาคนหนึ่งชื่อฟอนฟลีต เราเรียกว่าวันวลิตเข้ามาค้าขายในอยุธยาจนเข้านอกออกในราชสำนักได้ วันวลิตได้เรียบเรียงจดหมายเหตุเล่าถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสมัยนั้นไว้อย่างละเอียดได้ความรู้เป็นอันมากและน่าเชื่อถือด้วย
คนสำคัญในสมัยนั้นที่ควรกล่าวถึงคือพ่อค้าเปอร์เซียนับถือศาสนาอิสลามชื่อเฉกอาหมัด (เฉก คือ ชีค) แล่นเรือเข้ามาจากเมืองกุม (ปัจจุบันอยู่ในอิหร่าน) นำสินค้าเข้ามาค้าขายจนมั่งคั่ง ทรงนับเป็นพระสหาย เพราะนอกจากคงจะช่วยอุดหนุนราชการด้านทรัพย์สินเงินทองแล้วยังเป็นกำลังหลักช่วยควบคุมดูแลพวกมุสลิมต่างพระเนตรพระกรรณ อีกด้วย คราวพวกญี่ปุ่นก่อการขบถจะจับพระองค์ขณะเสด็จลงทรงฟังพระสอนบาลีก็ได้ท่านผู้นี้ช่วยจนทรงรอดพ้นไปได้จึงโปรดฯให้เป็นเจ้าพระยาบวรรัตนนายกเทียบเท่าอัครมหาเสนาบดีแต่ไม่ต้องทำราชการใด ๆ
ลูกหลานของท่านเป็นกำลังสำคัญของบ้านเมืองมาทุกยุคสมัยจนตราบถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ยากที่จะหาวงศ์ตระกูลใดในประเทศนี้เสมอเหมือน เฉกอาหมัดผู้นี้คือต้นตอบ่อเกิดสกุลบุนนาคครับ!
คนสำคัญอีกคนเป็นข้าราชการที่สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงไว้วางพระราชหฤทัยมาก ในรัชกาลนี้ได้เป็นพระยาศรีวรวงศ์ ประวัติยังอึมครึมอยู่ ว่ากันว่าอาจเป็นพระราชโอรสสมเด็จพระเอกาทศรถประสูติจากสาวชาวบ้านธรรมดา บ้างก็ว่าอาจเป็นญาติข้างแม่ของพระเจ้าทรงธรรมจึงมิได้เป็นเจ้ามาแต่กำเนิด เอาเป็นว่าต่อไปท่านได้เป็นเจ้าพระยามหาเสนาซึ่งใหญ่ยิ่งมากในรัชกาลหน้า และยังได้ครองราชสมบัติเป็นกษัตริย์เริ่มพระราชวงศ์ใหม่อีกด้วย
เมื่อสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมสวรรคต พระยาศรีวรวงศ์ได้ยกราชสมบัติถวายสมเด็จพระเชษฐาธิราช พระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ทั้งที่ความจริงพระศรีศิลป์ น้องชายสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมเข้าคิวรออยู่ สมเด็จพระเชษฐาธิราชเป็นกษัตริย์องค์ที่ 23 ตัวพระยาศรีวรวงศ์เองมีคุณงามความดีได้เป็นเจ้าพระยามหาเสนา สมุหพระกลาโหม คนทั่วไปเรียกว่าเจ้าพระยากลาโหม มีอำนาจมากเพราะเป็นคนตั้งพระเจ้าแผ่นดิน
ตอนต้นรัชกาลพระศรีศิลป์ยกทัพมาก่อการขบถทวงราชสมบัติแต่ถูกจับได้และนำตัวไปสำเร็จโทษที่วัดโคกพระยา วันหนึ่งเจ้าพระยากลาโหมจัดงานศพมารดา ผู้คนไปร่วมงานทั้งอยุธยา สมเด็จพระเชษฐาธิราชกริ้วว่าเป็นแค่อัครมหาเสนาบดีคนยังประจบเอาใจขนาดนี้ บางทีอาจทรงริษยาด้วยจึงทรงระแวงว่าเจ้าพระยากลาโหมอาจเป็นขบถ ทรงแสร้งเรียกให้มาเฝ้าฯด่วนแต่เจ้าพระยากลาโหมรู้ทันประกาศก้องว่าท่านเองได้ทำราชการมาด้วยความจงรักภักดี บัดนี้พระเจ้าแผ่นดินกล่าวหาว่าจะเป็นขบถก็จะขอเป็นขบถล่ะ ว่าแล้วก็คุมผู้คนที่ภักดีเข้าจับสมเด็จพระเชษฐาธิราชปลงพระชนม์เสียที่วัดโคกพระยา
ขุนนางยกราชสมบัติให้เจ้าพระยากลาโหมแต่ท่านไม่ยอมรับกลับแสดงอาการว่าจงรักภักดีโดยขอถวายพระอาทิตยวงศ์ พระราชโอรสอีกพระองค์ของพระเจ้าทรงธรรมขณะนั้นพระชันษา 10 ปี สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ กษัตริย์พระองค์ที่ 24 ยังเด็กนัก วัน ๆ เอาแต่เล่นไม่เป็นโล้เป็นพาย หกเดือนต่อมาขุนนางก็พร้อมใจกันถอดสมเด็จพระอาทิตยวงศ์ พงศาวดารกล่าวว่า “จำจะยกพระอาทิตยวงศ์ลงเสียจากเศวตฉัตร”แล้วมอบราชสมบัติให้เจ้าพระยากลาโหมขึ้นครองราชย์ให้รู้แล้วรู้รอด คราวนี้ท่านยอมรับ เป็นอันสิ้นสุดวงศ์พระร่วงและเริ่มพระราชวงศ์ใหม่
กษัตริย์พระองค์ใหม่นี้ชื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปราสาททอง รัชกาลที่ 25 แห่งอยุธยา แต่ความที่ยังหาหลักฐานเชื่อมโยงกับราชวงศ์สุโขทัยซึ่งเริ่มตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระมหาธรรมราชาไม่ได้ จึงถือว่าเป็นการเริ่มราชวงศ์ใหม่ นักประวัติศาสตร์เรียกว่าราชวงศ์ปราสาททอง
คำว่า “ปราสาททอง” ไม่ใช่พระนาม แต่เป็นเพราะรัชกาลนี้โปรดฯ ให้สร้างพระมหาปราสาทจักรวรรดิไพชยนต์ปิดทองทั้งหลังซึ่งเป็นเรื่องแปลกในสมัยนั้น คนทั้งปวงจึงเรียกว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปราสาททอง
พระเจ้าปราสาททองฉลาดหลักแหลมแต่ดูจะมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวอยู่ การยกพระเชษฐาธิราชขึ้นเป็นกษัตริย์แทนที่จะถวายพระศรีศิลป์จะมองว่าเป็นการรักษากฎเกณฑ์ก็ได้ แต่ความจริงพระศรีศิลป์มีความสามารถและมีพระชนมายุสูงกว่าพระเชษฐาธิราชมาก ขุนนางเองก็ไม่ได้ยอมรับพระเชษฐาธิราชเท่าไรนัก การคุมกำลังมายึดอำนาจจากพระเชษฐาธิราชอ้างว่าถูกกล่าวหาก่อนว่าจะเป็นขบถก็ยังน่าคิดว่าพระเชษฐาธิราชอาจมีเหตุควรระแวงก็ได้ การยึดอำนาจจากพระเชษฐาธิราชแล้วทำทีถวายราชสมบัติแด่พระอาทิตยวงศ์ทั้งที่รู้ว่าเป็นเด็กอาจยกย่องเพื่อทำลายง่าย ๆ ภายหลังก็ได้คล้าย ๆ ที่ทหารปฏิวัติแล้วยกพลเรือนเป็นนายกฯ ต่อไปค่อยหาเหตุปลดนายกฯ อีกที ด้วยเหตุนี้คนสมัยก่อนเช่นรัชกาลที่ 5 เคยทรงตั้งข้อสังเกตว่าพระเจ้าปราสาททองอาจจะเป็นคนช่างอุบายและมีมารยากระมัง!
ในรัชกาลนี้มีการกวาดล้างข้าราชการและเจ้านายสมัยราชวงศ์ก่อนเป็นอันมากจนแทบจะหาข้าราชการไม่ได้ต้องรับคนต่างชาติเข้ามาทำราชการ
พระเจ้าปราสาททองมีน้ององค์หนึ่งรู้จักไว้ตรงนี้ก่อนว่าชื่อพระศรีสุธรรมราชา แต่ไม่โปรดฯ ให้ทำราชการสำคัญอันใด มีพระราชโอรสประสูติตั้งแต่ก่อนครองราชย์คือเจ้าฟ้าไชยและมีพระราชโอรสชั้นเจ้าฟ้าหลัง
ครองราชย์แล้วชื่อพระนารายณ์ราชกุมาร
พระเจ้าปราสาททองเป็นคนสร้างวัดไชยวัฒนาราม (บัดนี้เหลือแต่ซากแต่สมบูรณ์และสวยงามมากกลางคืนประดับไฟน่าดู) วัดชุมพลนิกายารามและพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ที่บางปะอิน
ก่อนสวรรคตพระเจ้าปราสาททองประชวรหนักแต่ทรงมอบพระขรรค์ให้เจ้าฟ้าไชยประหนึ่งว่าเป็นการมอบราชสมบัติ เจ้าฟ้าไชยได้เป็นกษัตริย์องค์ที่ 26 แต่ความสัมพันธ์กับพี่ป้าน้าอาและน้อง ๆ ในพระราชวงศ์ไม่ดีนัก พระนารายณ์ราชกุมารจึงนำทหารเข้ายึดอำนาจและปลงพระชนม์สมเด็จเจ้าฟ้าไชยพี่คนละแม่ แล้วยกพระเจ้าอาคือพระศรีสุธรรมราชาเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 27 ส่วนพระองค์เองเป็นพระมหาอุปราช
สมเด็จพระศรีสุธรรมราชามีนิสัยไม่ดีสมกับที่พระเจ้าปราสาททองไม่ไว้วางใจ แทนที่จะเมตตาพระนารายณ์กลับวางตัวเป็นใหญ่ วันหนึ่งจะปลุกปล้ำพระน้องนางของพระนารายณ์ซึ่งความจริงก็เป็นหลานอา พระนารายณ์จึงเข้ายึดอำนาจจับสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาไปสำเร็จโทษตามธรรมเนียมกษัตริย์ที่วัดโคกพระยา แล้วขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 28 ทรงพระนามว่าสมเด็จพระนารายณ์
บัดนี้เริ่มแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ มหาราชอีกพระองค์ แผ่นดินนี้กรุงศรีอยุธยาเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด เสียดายที่แต่แล้วตอนปลายกลับตกต่ำลงจนค่อย ๆ ถึงแก่กาลอวสานในเวลาต่อมา.
วิษณุ เครืองาม
wis.k@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น