วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

สองแคว...หรือ จ.พิษณุโลก (เดลินิวส์)


สองแคว...หรือ จ.พิษณุโลก ถือเป็นจังหวัด หนึ่งที่มีแม่น้ำน่านไหลผ่านใจกลางเมือง จนมีชื่อเรียกขานกันในสมัยโบราณว่า เมือง “อกแตก” และเป็นอีกจังหวัดที่มีการยึดถือสืบทอดประเพณีการจัดงานแข่งขันเรือยาวมาเป็นประจำทุกปี จนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของบรรดาทีมเรือแข่งจากทั่วประเทศ ต่อจาก สนามแข่งเรือเมืองพิจิตร  ชาวพิษณุโลก ในอดีตมีวิถีชีวิตที่ผูกพันอยู่กับสายน้ำน่าน มาตั้งแต่ครั้งสร้างเมือง รวมไปถึง ลำน้ำยม ลำน้ำวังทอง และ ลำน้ำแควน้อย เปรียบเสมือนสายโลหิตที่คอยหล่อเลี้ยงชาวสองแคว ให้คงความอุดมสมบูรณ์ มีเรือนแพเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คน ที่มีวิถีชีวิตอันเรียบง่ายสมถะอยู่กับสายน้ำ และธรรมชาติ จนเป็น เอกลักษณ์ประจำเมือง มาแต่กาลก่อน เรือ จึงเป็นพาหนะสำคัญของชาวบ้าน ในการใช้สัญจรติดต่อกันในอดีต และในกาลต่อมาได้เกิดวิวัฒนาการทางวัฒนธรรม อันเป็นวิถีชีวิต ก่อให้เกิดประเพณีทางน้ำ อันเป็นกีฬาชาวบ้าน คือ การแข่งขันเรือยาวประเพณี อันยิ่งใหญ่เกรียงไกรในลำน้ำน่าน เมืองสองแคว จวบจนปัจจุบัน
   
ในทุก ๆ ปี หลัง เทศกาลออกพรรษา ชาวบ้านที่มีชุมชนอยู่ติดกับริมน้ำน่าน จะพร้อมใจกันตกแต่งเรือ เพื่อนำผ้าป่า และผ้าห่มไปถวาย หลวงพ่อพระพุทธชินราช พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก ที่มีพุทธลักษณะงดงามเป็นหนึ่งในสยาม ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือชาวบ้านเรียกว่า วัดใหญ่ ซึ่งได้รับพระราชทานสถาปนายกฐานะขึ้นเป็น พระอารามหลวง ชั้นเอก เมื่อปี พ.ศ. 2458 และเป็นวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำน่าน สำหรับเรือที่ชาวบ้านนำมาตกแต่ง จะเรียกว่า “เรือทรง” ชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านที่มีบ้านเรือนหรือชุมชนติดอยู่กับริมน้ำน่าน ได้แก่ บ้านบางทราย บ้านวัดหล่ม บ้านเสาหิน บ้านใหม่ บ้านวัดพริก บ้านปากพิง เป็นต้น ซึ่งหมู่บ้านเหล่านี้ จะนำเรือของแต่ละบ้าน พายล่องไปถวายผ้าป่า และไปร่วมห่มผ้าองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช หลังจากถวายเสร็จ ในภาคบ่ายก็จะพายเรือล่องกลับบ้าน ในระหว่างทางก็จะมีการละเล่น ร้องรำทำเพลง ซึ่งเป็นเพลงเรือ กันสนุกสนานไปตลอดสายน้ำที่ล่องกลับ ส่วนคนหนุ่มก็จะมีการประลองกำลัง โดยการประลองฝีพายเรือ พายเรือแข่งขันกันในระหว่างทาง เพื่อแสดงออกถึงความแข็งแกร่ง ความสามัคคีของคุ้มบ้านคุ้มวัด ที่ร่วมขบวนเป็นประจำทุกปี จนเป็นที่มาของประเพณี แข่งขันยาวนาน มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปีนี้ทางจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เทศบาลนครพิษณุโลก ชมรมเรือยาวจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยพ่อค้าประชาชน ชาวจังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมกันสืบสานประเพณี จัดงานแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ประจำปี 2554 ในระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน 2554 ณ ลำน้ำน่าน หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
   
นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เปิดเผยว่า จังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมกันจัดงานสืบสานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ขึ้นเป็นประจำทุกปี ที่บริเวณหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งในปีนี้การแข่งขันจะจัดขึ้นช่วงวันที่ 17-18 กันยายนนี้ และประกอบกับในปีนี้น้ำในลำน้ำน่านมีปริมาณที่สูง จึงทำให้การจัดงานในครั้งนี้น่าจะทำให้การแข่งขันมีความสนุกสนานยิ่งขึ้น โดยการจัดการแข่งขันแบ่งออกเป็นแต่ละประเภทดังนี้ ประเภทที่ 1 เรือยาวใหญ่ ก. (ฝีพาย 41-55 คน) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา ประเภทที่ 2 เรือยาวใหญ่ ก. 2 (ในกลุ่มผู้แพ้ รอบแรก) ชิงถ้วยเกียรติยศ พร้อมรางวัลเงินสด 18,000 บาท ประเภทที่ 3 เรือยาวกลาง ก. (ฝีพาย 31–40 คน) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสด 20,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา ประเภทที่ 4 เรือยาวเล็ก ก. (ฝีพายไม่เกิน 30 คน) ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสด 15,000 บาท และพระพุทธชินราชบูชา ประเภทที่ 5 เรือยาวเล็ก ก. 2 (ในกลุ่มผู้แพ้ รอบแรก) ชิงถ้วยเกียรติยศพร้อมรางวัลเงินสด 8,000 บาท ประเภทที่ 6 เรือยาวจิ๋ว (ฝีพายไม่เกิน 12 คน) ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พร้อมเงินสด 8,000 บาท ประเภทที่ 7 เรือท้องถิ่น 3 ฝีพาย ชิงโล่พระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสด 5,000 บาท ประเภทที่ 8 เรือ 7 ฝีพาย “สิงห์สองแคว” เพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล, อบต.) จังหวัดพิษณุโลก ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พร้อมรางวัลเงินสด 7,000 บาท ประเภทที่ 9 เรือยาวเล็ก ข ภายในจังหวัดพิษณุโลก (ฝีพายไม่เกิน 30 คน) ชิงโล่พระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท ประเภทที่ 10 กองเชียร์เรือยาว ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท
   
นอกจากนั้นภายในงานยังได้จัดให้มีการทอดผ้าป่าทางน้ำควบคู่ไปกับการแข่งขันเรือยาวในครั้งนี้ และยังจัดงานเปิดการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานในครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการสร้างสีสันบรรยากาศในพิธีเปิดการแข่งขัน เริ่มด้วยขบวนเรืออัญเชิญถ้วยพระราชทาน ขบวนแห่กองผ้าป่าสามัคคี ของทีมเรือที่พร้อมใจกันนำมาถวายที่วัดใหญ่ การแสดงของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครพิษณุโลก ที่สวยงามยิ่งใหญ่อลังการ ชมกองเชียร์จากชุมชนย่อยเทศบาลฯ และกองเชียร์จากทีมเรือยาวต่าง ๆ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านเข้าเที่ยวชมและเชียร์ทีมเรือในดวงใจโดยพร้อมเพรียงกัน โดยปีนี้เปิดให้เข้าเที่ยวชมฟรีตลอดงานอีกด้วย.

---------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น